รายงานการพัฒนาชุดฝึกอบรมแนวทางการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์

ชื่อโครงการ การพัฒนาชุดฝึกอบรมแนวทางการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์
ผู้ศึกษาค้นคว้า นายอับดลรอหมาน  ปะดูกา    ศึกษานิเทศก์ชำนาญการ
ปีที่ศึกษา 2555

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพชุดฝึกอบรมแนวทางการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์   เพื่อเปรียบเทียบความรู้ความเข้าใจครูผู้สอนเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ก่อนและหลังการฝึกอบรม  เพื่อการศึกษาความพึงพอใจของผู้บริหารโรงเรียนต่อการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ของครู  และการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของนักเรียน  เพื่อศึกษาความพึงพอใจของครูต่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของนักเรียน  เพื่อศึกษาความพึงพอใจของผู้ปกครองนักเรียนต่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของนักเรียน  เพื่อศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนต่อพฤติกรรมนักเรียน  และเพื่อศึกษาความสามารถของครูผู้สอนในการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้  เลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เป็นโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสตูล  โดยการสมัคร จำนวน  25  โรงเรียน ประกอบด้วย ผู้บริหารโรงเรียน จำนวน  25  คน  ครูผู้สอน จำนวน  25 คน   ผู้ปกครองนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่  6 จำนวน  584 คน  และนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6  จำนวน  584 คน โดยใช้แบบแผนการทดลองแบบ  One – Group Pretest – Posttest Design  เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ ชุดฝึกอบรมแนวทางการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์  แบบทดสอบ  และแบบสอบถาม ที่ผู้รายงานสร้างขึ้น    วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป    Spss  for  Windows   สถิติที่ใช้  ได้แก่  การแจกแจงความถี่   ค่าร้อยละ  ค่าเฉลี่ย   ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน  ค่า t – test  และ  E1 / E2

ผลการศึกษาพบว่า

1.  ผลการวิเคราะห์ประสิทธิภาพ  E1/E2 ของชุดฝึกอบรมแนวทางการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์  มีค่า  E1/E2 เท่ากับ  82.20/86.38  แสดงว่าชุดฝึกอบรมแนวทางการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์   มีประสิทธิภาพเป็นไปตามเกณฑ์โดยมีค่า E1 และ E2 สูงกว่าเกณฑ์
80/80 ที่กำหนดไว้

2.  ผลการเปรียบเทียบความรู้ความเข้าใจของครูผู้สอนเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์  พบว่า  หลังการใช้ชุดฝึกอบรมสูงกว่าก่อนการใช้ชุดฝึกอบรม  อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ  0.01 แสดงว่าการฝึกอบรมด้วยชุดฝึกอบรมนี้ทำให้ครูผู้สอนมีความรู้สูงขึ้น

3.  ผู้บริหารโรงเรียนมีความพึงพอใจของต่อการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ของครู โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก และมีความพึงพอใจต่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของนักเรียนโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก

4.  ครูผู้สอนกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์  มีความพึงพอใจต่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของนักเรียน  โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก

5.  ผู้ปกครองนักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของนักเรียนโดยภาพรวม  อยู่ในระดับมาก

6.  นักเรียนมีความคิดเห็นของต่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของนักเรียน  โดยภาพรวมมีการปฏิบัติอยู่ในระดับมาก

7.  ความสามารถของครูผู้สอนเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์  โดยภาพรวมมีความสามารถอยู่ในระดับมาก

 

ผู้ชม :2575